Idol~P|2Iestty ::LUCKY CLOVER::V.3 Featuring -- Cagalli Yura Athha & Stellar

++Main++

Home
Diary
Blog
Webboard
Guest Book
♥ E-Card
♥ Pools

Profile
Staff
Credits
Link
E-Mail

++General++

  Factions
 ♥ Technology
 ♥ Locations
 
Acronyms
 ♥ C.E. Timeline
 
G.U.N.D.A.M.
 
S.E.E.D
 
World
 ♥ People

++C.E.73 Destiny++

  Story
 
Character
 ♥ Mechanics
 
♥ Special 
 
VCD Episode Guide
 ♥ DVD Episode Guide
 ♥ OVA
 
Song Lyrics
 ♥ Midi
 ♥ Mp3
 ♥ Music Video

 
Video
 
Gallery
 ♥
Wallpaper
 ♥
Avatar
 ♥ Gift Animetion
 ♥ Calendar
 
Skin Winam

++C.E.71 Seed

  Story
 ♥
Character
 ♥
Mechanics
 ♥ Special
 
VCD Episode Guide
 ♥ DVD
 ♥ Song lyrics
 ♥ Midi
 ♥ Mp3
 ♥
Music Video
 ♥
Video
 ♥
Gallery
 ♥
Wallpaper
 
Avatar
 ♥ Gift Animetion
 ♥
Calendar
 ♥
Skin Winam

++Anime Other++

  Bleach
 ♥ Death Note
 ♥ Fullmetal Alchemist
 ♥ Fruit Basket
 ♥ Naruto
 ♥ Prince Of Tennis
 ♥ Rave
 ♥ Shuffle

++Video++

  MV Linkin Park
 ♥ MV Korn
 ♥ MV Rain
 ♥ MV Hikaru Utada
 ♥ MV W-inds

++Image++

  Gallery
 
Wallpaper
 ♥ Avatar
 ♥ Gif Animetion
 ♥ Enter
 ♥
Banner
 ♥ Botton
 ♥ Calendar
 ♥ Skin Winam
 ♥ MSN Skin

++Music++

 ♥ Song Lyrics
 ♥ Midi
 ♥ Mp3

++Down Load++

 ♥ Corsor
 
Font
 ♥ Java Scrips
 ♥ Web Lyout

++Link++

++Credits++

 Site(c)Idol~P|2Iestty
 Made by(c)Idol~P|2Iestty
 Layout(c)Idol~P|2Iestty
 Image: Minitokyo

 


 

 

++Kira Yamato++


ชื่อ: Kira Yamato (คิระ ยามาโตะ)
เพศ: ชาย
วันเกิด: 28 พฤษภาคม CE 55
ลักษณะทางพันธุกรรม: เป็นโคออดิเนเตอร์รุ่นแรก
อายุ: 18
กรุ๊ปเลือด: A
ผม: สีน้ำตาล
ตา: สีม่วง
ส่วนสูง: 165cm
น้ำหนัก: 58kg
โมบิลสูทประจำตัว: ZGMF-X10A Freedom Gundam -> ZGMF-X20A Strike Freedom
สถานะ: เป็นพลเรือนของออร์บ อาศัยอยู่ในบ้านกับครอบครัวและลักส์ -> เป็นนักบินโมบิลสูท Freedom Gundam ->Strike Freedom
สังกัดกองกำลัง: Neutral -> Clyne Faction
คนรัก: Lacus Clyne
พากษ์เสียงโดย: Souichiro Hoshi

 

 คิระ  ยามาโตะเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับคางาริ ยูระ อัสฮา หรือว่ากันตามจริงแล้ว็เป็นพี่น้องฝาแฝดกันนั่นล่ะ   คิระเกิดมาจากความทะเยอทะยานของผู้เป็นบิดาคือยูเรน  ฮิบิกิ ที่หวังจะสร้างสุดยอดโคออร์ดิเนเตอร์ให้สำเร็จ    และตามทั่วไปสไตล์นักวิทยาศาสตร์นี้ก็เอาสิ่งใกล้ตัวมาทดลองอยู่เสมอ ไม่ตัวเองก็เอาเมียเอาลูกนั่นล่ะ   และคิระก็คือผลสำเร็จของพ่อ
แต่แม้คิระจะเป็นผลสำเร็จของผู้เป็นพ่อ  เป็นสุดยอดมนุษย์ที่ใครๆก็อยากจะเป็น แต่เจ้าตัวก็ดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกสนใจหรือภาคภูมิใจอะไรเลยแม้แต่น้อย 
 
                      สองพี่น้องคิระและคางาริจำต้องจากบิดาแลมารดาแท้จริงของตนตั้งแต่ยังเด็กด้วยเพราะในช่วงเวลาขณะนั้น   เกิดการต่อต้านโคออร์ดิเนเตอร์อย่างหนักและเหล่านักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นก็เป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อการร้ายติดอาวุธที่เรียกตนเองว่าบลูคอสมอส    เข้าโจมตีสถานีค้นคว้า GARM R&D บนโคโลนีเมนเดล(ซึ่งยูเรน ฮิบิกิ ทำงานอยู่และเป็นอดีตหัวหน้าศูนย์วิจัยแห่งนี้)   โดยศูนย์วิจัยแห่งนี้เป็นสูนย์วิจัยค้นคว้าการสร้างมนุษย์โคออร์ดิเนเตอร์    และเมื่อวีอา  ฮิบิกิทราบข่าวจึงส่งตัวคิระและคางาริให้กับนางยามาโตะน้องสาวของตนเองดูแลลูกๆทั้งสอง  โดยต่อมานางยามาโตะได้มอบคางาริให้กับท่านอุซุมิไว้เป็นบุตรบุญธรรม

                        เมื่อคิระมาอยู่กับครอบครัวยามาโตะ   คิระก็รู้แต่เพียงว่าตนเป็นโคออร์ดิเนเตอร์รุ่น 1 เท่านั้น(โคออร์ดิเนเตอร์รุ่น 1 เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นเนเชอรัล) และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองโคเพลนิกซ์บนดวงจันทร์  และที่นี่เองเขาได้พบกับอัสรัน  ซาล่า

                         คิระกับอัสรันรู้จักกันที่โรงเรียนเตรียมความพร้อมที่โคเพลนิกซ์  ตอนอายุได้ 6 ขวบ โดยโรงเรียนแห่งนี้เป็นดรงเรียนเตรียมสำหรับเหล่าโคออร์ดิเนเตอร์โดยเฉพาะ    ตอนเด็กคิระดูเป็นเด็กที่ไม่ค่อยสนใจหรือขยันเรียนเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกันอัสรัน    แถมยังชอบพึ่งอัสรันให้ช่วยทำงานทำการบ้านอีก(ไม่ดีจริงๆ)    แต่ถึงยังไงแววอัจฉริยะของนายคนนี้ก้ยังฉายแวว  จากการสร้างโปรแกรมอัจฉริยะแบบขี้โกง   จนมีโดนอัสรันต่อว่าไปบ้าง   ซึ่งทั้งสองคนนี้ต่างเป็นเพื่อนสนิทกันมากจริงๆ   ขนาดว่าก่อนอัสรันย้ายไปยังช่วยคิระทำการบ้านอีก(จะอะไรที่ไหนอย่งที่กล่าวไปแล้วในตอนของอัสรันว่าเจ้าโทรี่นี่ล่ะ  การบ้านของคิระ  -*-)

                          ต่อมาครอบครัวยามาโตะได้ย้ายไปที่เฮลิโอโพลิสโคโลนี่เพื่อการวิจัยของอ๊อปซึ่งสร้างไว้เพื่อการวิจัยหาวัตถุดิบใหม่ๆจากเหมืองอุกกาบาต   และในปีC.E. 69 คิระไดเข้าศึกษาที่คณะเครื่องจักร ณ เฮลิโอโพลิส    การเรียนที่นี่ก็เป็นเหมือนการเตรียมพร้อมในการขับโมบิลสูทให้กับคิระเพราะบ่อยครั้งคิระต้องไปช่วยงานอาจารย์ในมอร์เกนเรทที่คอยทำหน้าที่สนับสนุนการทำอาวุธให้กับอ๊อปด้วย     เราคิดว่าหน้าที่ของคิระก็คงหนีไม่พ้นการปรับปรุงระบบทดลองOS ของหุ่นยนต์อะไรประมาณนี้แน่นอน  อย่างที่ใครๆเห็นใน G-seed ตอนแรก คิระเข้าปรับปรุงระบบ OS ของstrikeได้อย่างคล่องนั่นก็เป็นเพราะเค้ามีพื้นฐานอยู่แล้ว

                          จุดหันเหที่สำคัญในชีวิตของเด็กวัยรุ่นธรรมดาอย่างคิระก็เห็นจะเป็นวันที่ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับเพื่อนรักอย่างอัสรัน  ซาล่าซึ่งการพบกันนี้ดูเหมือนจะพบกันแบบผิดเวลาผิดที่ไปสักหน่อยเพราะดันมาพบกันตอนที่อัสรันเข้ามาบุกชิงหุ่นที่เฮลิโอโพลิส  จนเรื่องราวบานปลายกลายเป็นตำนานรักข้ามจักรวาล(ฮา)

                          โดยพื้นฐานของเด็กแบบคิระนั้นจัดว่านิสัยเหมือนเด็กวัยนี้ทั่วไป  คือไม่ค่อยจะยี่หร่ากับสงครามภายนอก   อาจเป็นเพราะถือว่าอ๊อปนั้นสงบสุข   แต่ด้วยความรักที่มีต่อเพื่อนจึงทำให้คิระจำใจต้องชักนำตนเองเข้าสู่สงครามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ในภาคSEEDเป็นช่วงที่คิระต้องเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตอย่างหนัก   และเมื่อต้องมาเจอสภาวะที่กดดันแบบนี้ก็อาจทำให้เขามีสติแตกอยู่เหมือนกัน    การยอมขึ้นขับโมบิลสูทของคิระก็หาได้มาจากความสมัครใจของตัวเขาเอง   แต่มาจากคำว่าปกป้องและคำว่าโคออร์ดิเนเตอร์ค้ำหัวอยู่  คำว่าปกป้องเป็นสิ่งที่ช่วยค้ำจุนจิตใจคิระให้สู้  ในขณะเดียวกันคำว่าโคออร์ดิเนเตอร์ก็เป็นสิ่งกดดันให้เข้าต้องสู้ด้วยเช่นกัน     สู้ด้วยความรู้สึกว่าถ้าไม่มีฉันก็ไม่มีใครทำได้   คิระจึงต้องสู้.....สู้.....และสู้....  ทั้งสองเป็นสิ่งผูกมัดให้คิระต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดต่างๆ   ไม่ว่าจะเป็นความสูญเสีย   การเอาตัวรอด  หรือแม้แต่ความรัก.....

                           สิ่งเหล่านี้ทำให้การมองโลกของคิระเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย   จิตใจของคิระก็เริ่มเปลี่ยนไปเช่นกัน   ความสับสนของการเปลี่ยนแปลงจิตใจเป็นชนวนให้คิระเริ่มหาจุดยืนในสิ่งที่ตนทำไม่เจอและเริ่มเป็นเครื่องจักรในการทำสงครามมากขึ้น    จากความรู้สึกที่ฆ่าคนไม่ได้กลับกลายเป็นต้องฆ่าเพื่อปกป้องชีวิตตน  ตัวคิระเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งเหล่านั้นผิด   แต่ด้วยแรงบีบจากสิ่งแวดล้อมจึงต้องทำไปอย่างนั้น   ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าจะเห็นพระเอกเรื่องนี้เป็นคนขี้แยร้องไห้อยู่เสมอ          จนเมื่อมาเจอกับลักซ์คิระเริ่มเห็นแสงสว่าง   และเริ่มตั้งคำถามว่าสู้กันอยู่แบบนี้ใช่ทางออกที่จะทำให้สงครามจบสิ้นหรือ    และในที่สุดเขาก็ได้พบคำตอบของตัวเขาเอง  ว่าจะสู้เพื่อใคร  สู้เพื่ออะไร   และแม้ว่าเขาคนเดียวจะไม่สามารถหยุดสงครามได้  แต่ก็ถือว่าตนเองยังได้ทำอะไรสักอย่างที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

                           ในภาคDestinyนี้คิระออกมาพร้อมกับอุดมการณ์อย่างแรงกล้า  และทำโดยยึดความถูกต้องของตนเอง  สิ่งที่ตนเองเชื่อเป็นหลัก   โดยอุดมการณ์เหล่านี้ส่วนหนึ่งยอมรับได้ว่ามาจากลักว์ด้วยส่วนหนึ่ง  แต่อีกส่วนหนึ่งก็มาจากความรักสันติภาพด้วยตัวของเขาเอง    คิระในตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาควรปกป้องสิ่งใดและต้องต่อสู้กับสิ่งใด      โดยสิ่งนั้นก็คือสันติภาพที่ปราศจากสงครามนั่นเอง

               ด้านความรัก  คิระจัดว่าเป็นคนที่ล้ำหน้ากว่าใครเพื่อนทั้งหมด นับตั้งแต่สัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับเฟรย์ที่ทำเอาเหล่าแม่บ้านที่นั่งดูการ์ตูนกับลูกตกตะลึงกันมาแล้ว   คิระรักเฟรย์  แต่ในความรักนั้นก็ยังมีความกลัวแฝงอยู่ด้วยเพราะเฟรย์จะคอยเป่าหูและพลักดันให้คิระสู้จนตัวตาย
เฟรย์ก็เป็นคนที่คิระหลงรักมาแต่ทุนเดิมอยู่แล้ว    ยิ่งมาทำตัวแบบนี้ใครเล่าจะไม่หลง   ดังนั้นความรักระหว่างเฟรย์และคิระน่จะจัดเป็นความลุ่มหลงมากกว่า

                            ส่วนกับคางาริ  อันนี้ขอพูดถึงเล็กน้อย   คิระสนิทกับคางาริด้วยเพราะคางาริเป็นคนเปิดเผยและไม่นับเขานับเราว่าเป็นเนอเชอรัลหรือโคออร์ดิเนเตอร์   ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คิระต้องการมากที่สุดและคางาริก็มีให้   แต่....มันก็เป็นไปไม่ได้เพราะทั้งสองคนนี้ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นพี่น้องกัน
(โดยส่วนตัวถ้าเราไม่ได้รู้มาก่อนว่าสองคนนี้เป็นพี่น้องกัน  เราก็คงไม่เชียร์หรอก  เพราะหน้าตามันเหมือนกันเกินไปดูยังไงก็พี่น้องกัน -_-")

                            พูดถึงความสัมพันธ์กับนางเอกของคิระตัวจริงกันบ้างนั่นคือเจ้าแม่นักลักของ ลักซ์  ไคลน์   คิระไม่ได้มีความรู้สึกว่ารักหรือชอบลักซ์ไปกว่าความรู้สึกเพื่อนเลยในตอนภาคSEED แต่สำหรับภาค DESTINY นั้นความรักของคิระที่อยากจะปกป้องลักซ์ก็มีอยู่เต็มเปี่ยม    และดูจากความรักของคิระทั้งหลายแล้วก็จัดว่านายคิระคนนี้เป็นคนที่มั่นคงและซื่อสัตย์ต่อความรักเพียงหนึ่งเดียวจริงๆ
นับว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญสำหรับตาคนนี้

สรุปแล้วคิระในปัจจุบันนั้นเป็นคนที่มั่นคงและมีสติ    และคิดก่อนทำเสมอ   นับว่าเป็นการพัฒนาตัวเองที่ดีขึ้นมากทีเดียว(ไม่งั้นเขาจะเรียกว่าท่านเทพเรอะ)