หากจะมีใครซักคนที่จะตอบเรื่องราวเกี่ยวกับ
Gundam SEED Destiny ได้ดีกว่าใครแล้วละก็คนๆ
นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นคุณโมโรซาวะ จิอากิ นักเขียนบทคู่บุญซีรีย์ SEED
และคู่ชีวิตจริงของผู้กำกับมิตสึโอะ ฟุคุดะ
คำอธิบายของเธอคงช่วยให้หลายๆ
คนเข้าใจความหมายที่แท้จริงของบทบาทตัวละครแต่ละตัวได้ดียิ่งขึ้น
QNOnline ได้ถอดความมาจากนิตยสาร Animage ฉบับเดือน 11
เล่มล่าสุดเพื่อนให้แฟนๆ ได้อ่านกันแล้ว!!
ชินคือหุ่นเชิดของนักบุญ
-
ช่วยพูดถึงธีมหลักของภาคนี้หน่อยครับ
จิอากิ - ธีมของภาคนี้ก็คือ สงครามนั้นน่ารังเกียจจริงรึ?
ส่วนภาคก่อนนั้นเป็น สงครามที่น่ารังเกียจ
เรียกว่าเกือบจะคนละมุมกันเลย เรียกว่าคนละเรื่องก็ได้
ทำให้ฉันต้องคิดมากเป็นพิเศษ แน่นอนทุกคนมักบอกว่าไม่ว่าจะมีเหตุผลเลิศหรูแค่ไหนสงครามก็คือสิ่งเลวร้าย
แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องสู้ล่ะ ประมาณว่า ไม่สู้ก็ตาย
แล้วจะเป็นอย่างไร
อีกหนึ่งธีมของเรื่องก็คือการมองสงครามผ่านทางสายตาของเหล่าเด็กหนุ่มสาว
ที่มีทั้งความสับสนและลุ่มหลงในกระบวนการชวนเชื่อต่างๆ
- หมายความว่ายังไงครับ
จิอากิ-
สำหรับเด็กๆที่เกิดมาท่ามกลางกระแสธารแห่งข้อมูลของสื่ออย่าง
ทีวีและอินเตอร์เน็ตนั้น ก็คงมีบ้างที่สับสนว่าจะเชื่ออะไรดี
จะหยุดรับข่าวสารก็ไม่ได้
วิธีง่ายที่สุดคือรับเอาสิ่งที่ชอบเข้ามา
ซึ่งในกรณีของชินนั้นเค้าเลือกที่จะเชื่อนักบุญ
ในสายตาเค้าเชื่อฟังหัวปักหัวปำ และยึดถือว่าเค้าสู้เพื่อ
ความเที่ยงธรรม ในขณะที่ ลูน่ามาเรีย
นั้นยังคงลังเลอยู่ไม่น้อย ทำแบบนี้ดีแล้วเหรอ แบบนี้น่าจะถูกแล้วมั้ง
ซึ่งความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของคนทั้งคู่ที่มีแนวคิดต่างกันสร้างให้เรื่องนั้นมีมิติขึ้นมา
-ในซี้ด คิระนั้นอยู่ท่ามกลางชีวิตที่สว่างไสวของวัยเยาว์
สนุกสนานกับเพื่อนวัยเดียวกัน
ต่างกับชินที่มีเพื่อนวัยเดียวกันน้อยมาก
เหมือนกับว่าแทบจะไม่มีเพื่อนเลยนะครับ
จิอากิ - ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นค่ะ ในใจเค้าคิดแต่ว่า
ชั้นเจอแต่เรื่องโศกนาฏกรรมนี่ แล้วจะทำไม
เหมือนกับเด็กที่โดนแกล้งมาตลอดก็เลยมีทัศนคติที่คับแคบและทำให้เค้าเข้าได้แค่กับคนที่มีประสบการณ์คล้ายๆกัน
จริงอยู่ที่ในความเป็นจริง
กรณีของคนที่เติบโตมากับโศกนาฏกรรมนั้นน่าจะเป็นคนอ่อนโยนเสียยิ่งกว่าใครๆก็เป็นไปได้
แต่เราไม่ต้องการเช่นนั้น
เราต้องการคนที่ผลักดันตัวเองให้ก้าวไปด้วยตรรกะแบบตัวเค้าเอง
คนที่ไขว่คว้าหาพลังยิ่งๆขึ้นไป เพราะแบบนั้นจะมีเสน่ห์มากกว่า
ฉากเปิดอันรุนแรงคือจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมงั้นรึ?
-
การที่เปิดฉากด้วยภาพการตายของครอบครัวที่ชินเคยได้รับมาในอดีตนี่สะเทือนอารมณ์มากเลยนะครับ
จิอากิ - ฉันก็ว่างั้นเหมือนกันค่ะ
เนื่องจากจะเปิดด้วยคนอื่นก็คงไม่ดี
ลูน่ามาเรียไม่มีปมที่น่าสะเทือนใจขนาดนั้น
เรย์เองก็ดูมีทีท่าสงบเงียบเก็บอารมณ์มากกว่า ประมาณเป็นพวก
ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จึงไม่ใช้เขา
ความจริงก็มีแนวทางว่าจะใช้คางาริเหมือนกัน
แต่เรื่องของคางารินั้นจบไปแล้วแถมคางาริเองก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเลยเก็บไป
และบอกตามตรงเลยฉันเองก็ไม่ชอบแบบนี้ค่ะ (แล้วไส่ไปทำไมเล่า...-
QN )
สายตาอันเคียดแค้นของชินเป็นสิ่งที่คุณจะเห็นได้ตั้งแต่ตอนแรกๆ
ของเรื่อง
- สำหรับชินแล้ว
คางาริคือคนที่เค้าไม่อาจจะละสายตาได้เลยสินะครับ
จิอากิ - ค่ะ
เพราะเธอคือคนที่เมื่ออยู่ต่อหน้าเค้าจะระงับอารมณ์ไม่อยู่
ด้วยความผูกพันอย่างลึกซึ้งในเชิงของความเศร้าทำให้น้ำหนักของเรื่องมีมากขึ้น
- ซึ่งนั้นก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ดูแรนดัล ตัดสินใจมอบ
อิมพัลส์ ให้ใช่มั้ยครับ
จิอากิ - ก็ไม่เชิงค่ะ
ที่จริงเหตุผลซึ่งทำให้ชินได้รับอิมพัลส์มาก็คือเค้าทำผลการเรียนได้ดีกว่าเรย์
พื้นหลังความสัมพันธ์ของชินและเรย์นั้นสนิทกันมาก
แม้แทบจะไม่ได้กล่าวถึงจุดนี้ก็เถอะ
แต่สิ่งที่ผลักดันชินก็คือความต้องการขึ้นขับอิมพัลส์โดยที่ตัวเค้าเองก็ไม่ได้คิดว่าเรย์คือคู่แข่ง
ทั้งคู่จึงไม่มีทิศทางของการชิงดีชิงเด่นกัน
เหมือนที่เห็นในตอนที่หนีจากออร์บได้
ความสัมพันธ์ของชินกับเรย์จึงยังคงมีระยะห่างเท่าเดิม
ตอนที่เป็นหัวหน้าอัสรันมักจะเข้มงวดกับชินเสมอ
นี่คือความแตกต่างระหว่างอายุและวัยวุฒิงั้นรึ
- ตรงกันข้ามกับอัสรันเลยนะครับ
ขานั้นเค้าเข้มงวดกับชินน่าดูเลย
จิอากิ -
นั่นก็น่าจะมากจากระยะห่างอายุของแต่ละคนมากกว่าค่ะ
ชินกับเรย์นั้นโตมาด้วยกัน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดเค้าทั้งคู่ก็มีมุมมองไม่ต่างกันคำพูดประเภท
ทำได้ดีมากนะ ทำถูกแล้วล่ะ จึงออกจากปากได้ง่ายๆ
แต่กับอัสรันนั้นเค้ามักเข้มงวดกับชินทุกเรื่อง
ซึ่งนั้นทำให้เค้าไม่สบายใจนักและพุ่งเข้าหาเรย์ที่เอาใจเค้าตลอด
จุดนี้เองที่แสดงให้เห็นว่าชินนั้นยังมีความเป็นเด็กอยู่มาก
- คิระคือความถูกต้องรึ?
จิอากิ ก็คงจริงนะค่ะ
-
งั้นก็น่าจะอนุมานได้ว่าชินนั้นมีอัตตาสูงมากจึงมักทำตามใจตนเองอย่างไม่ยั้งคิดเสมอใช่มั๊ยครับ
จิอากิ - ค่ะ ซึ่งฉันเองชอบจุดนี้มากๆ
จะว่าน่ารักก็ไม่ใช่น่าเกลียดก็ไม่เชิง
เป็นคนอ่อนโยนและตรงไปตรงมาเหมือนเด็กดี
-
แล้วเหตุผลที่ใช้ชินสู้จนจบนี่ก็เพราะจนแล้วจนรอดเค้าก็ไม่อาจหยั่งรู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของดูแรนดัลได้
หรือว่าเค้าไม่อาจจะขัดขืนการชี้นำของเรย์และดูแรลดัลไม่ได้กันแน่ครับ?
จิอากิ - จะว่าแบบนั้นทั้งหมดก็ได้มั้งค่ะ
แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็เพราะชินคิดว่าตัวเองไม่ผิดไงค่ะ
ฝ่ายดูแรนดัลคือฝ่ายถูกต่างหาก ที่ผ่านมาแก่นของ กันดั้ม
เองนั้นไม่เคยบอกว่าใครถูกหรือผิด
ฉันมักถามตัวเองเสมอนี่มันแค่ความคิดต่างขั้วไม่ใช่รึไง
สิ่งที่คิระคิดคือความถูกต้องงั้นรึ?
เจตนารมณ์ของดูแรนดัลคือหยุดความสับสน
แต่พวกคิระต้องการคงความสับสนเอาไว้
พูดแค่นี้คิดว่าใครถูกละค่ะ
ถ้าคิดกันตามสถานภาพของแต่ละคนที่มีแนวคิดและความรับผิดชอบเป็นของตัวเอง
การละเลยสิ่งนั้นคือความถูกต้องรึ ดังนั้นถ้าจะให้บอกจริงๆ
ฉันว่าคิระไม่ใช่ฝ่ายถูกซะทีเดียวหรอกค่ะ
- แปลกลายๆว่าดูแรนดัลคือการจัดระเบียบสังคมสินะครับ
จิอากิ -
ถ้าถามเช่นนี้ก็เหมือนกับบอกว่าคิระคือฝ่ายถูกนั่นแหล่ะค่ะ
ภาคก่อนฉันคิดว่าพวกเค้าแค่พบคนหลากแบบเลยชอบที่จะมีคนหลากหลายในสังคม
แต่คราวนี้ไม่ใช่ ทั้ง 2 ฝ่ายก็มีความถูกต้องของแต่ละคน
มีวิถีทางเดินของตนทำให้เรื่องสนุกมาก
แถมยังยากที่จะตัดสินสิ่งที่เรียกว่าความถูกต้อง
ยิ่งแต่ละคนก็มีความถูกต้องจึงยากที่จะตัดสินใจ
แต่มีสิ่งที่เค้าเหมือนกันก็คือ
ทำในสิ่งที่จะนำอนาคตที่ฝันไว้มาสู่ตน
ซึ่งแน่นอนการตัดสินเลือกของแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับข่าวสารที่ได้รับ
จึงบอกไม่ได้หรอกนะค่ะว่าใครถูก
- งั้นคุณจะบอกว่า Gundam SEED DESTINY
คือการตีแผ่สถานการณ์โลกงั้นหรือครับ
แล้วแบบนี้มันะไม่หนักไปหน่อยหรือครับ
จิอากิ ตัวเรื่องนั้นมีแนวทาง 2 แง่ให้เลือกตลอดทาง
ซึ่งนั่นค่อยๆ
หล่อหลอมให้ชินกลายเป็นดาร์กฮีโร่ขึ้นมาทีละน้อยๆ
ซึ่งเป็นทิศทางที่ต่างกับพวกคิระโดยสิ้นเชิง
ซึ่งนั่นก็เป็นตัวละครแต่ละตัวก็มีทางของตัวเองที่แสดงจุดยืนของแต่ละคนออกมาอย่างชัดเจน
คิระเองก็คิดแบบคิระ ลักส์ก็ทำแบบลักส์
อัสรันก็เดินในทางที่เค้าเลือก
แต่ทุกคนก็เดินทางที่ตนทำได้จนสุดทางเท่าที่ทำได้
ด้านชินเองก็คงเชื่อในคำพูดของดูแรนดัลอย่างไม่ต้องสงสัย
ถึงได้ต่อสู้เพื่อสิ่งนั้น
ก็แหมตัวดูแรนดัลนี่น่าเชื่อถือซะขนาดนั้นนี่ค่ะ(ฮ่า)
เมื่อเจอตำแหน่ง FAITH
เข้าอัสรันก็ยอมกลับเข้าซาฟท์อีกครั้ง คนอะไรคารมร้ายจริงๆ
- นั่นสินะครับก็ถ้าผู้นำน่าเชื่อถือแบบนี้เป็นผม
ผมก็อยากช่วยครับ
จิอากิ - คงอย่างนั้นนะค่ะ เพราะแม้แต่ อัสรัน ซาล่า
ที่ไม่เต้นตามจังหวะของใครก็ยังหลงลมท่านผู้แทนดูแรนดัลได้
แต่เมื่อเค้าเห็นอะไรมากเข้า
จึงรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เค้าคิดและตีตนออกห่าง
ในที่สุดก็กลับมาสู่สนามรบได้ด้วยความช่วยเหลือของคิซากะ
แต่ที่เค้ากลับมานั้นไม่ใช่เพราะคิระหรือดูแรนดัล
แต่กลับมาเพราะต้องการทำในสิ่งที่เชื่อ
- แปลว่าแม้ระหว่างทางจะเจอกับอะไรก็ตาม
อัสรันก็ยังคงมุ่งตรงไปตามทางที่เค้าเชื่อสินะครับ
จิอากิ - ฉันก็ตั้งใจให้เค้าเป็นแบบนั้นค่ะ
ปลายทางของชิน
- กว่า 50 ตอนที่ผ่านมาชินต่อสู้เพื่ออะไรครับ
จิอากิ -
ถ้าจะถามแบบนั้นก็ต้องถามว่าตอบจบนั้นชินสู้เพื่ออะไร
แต่มันก็เหมือนถามว่า ที่จริงแล้วเธอต้องการอะไรกันรึ?
ในเวลาที่หวนกลับไปทำไม่ได้แล้วนั่นแหละค่ะ
-
หมายความถึงต้องการจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัวสินะครับ?
จิอากิ - ค่ะ และเพื่อการนั้นถึงต้องการ โลกที่ปราศจากสงคราม
แม้ต้องเดินบนหนทางของมารร้ายก็ตาม
แม้จะดูเหมือนว่าเค้าต้องการ ทำลายออร์บที่น่ารังเกียจ
แต่ที่จริงเค้าแค่ต้องการความอบอุ่นเยี่ยงเก่า
แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่อาจหวนคืนมาแล้วก็ตาม
-
แต่การที่ชินเสียครอบครัวไปในสงครามก็มีทิศทางที่นำให้เค้าสู้เพื่อสันติสุขได้เหมือนกันนี่ครับ
จิอากิ - มันก็ใช่ค่ะ
แต่ในกรณีนี้ตัวตนของเค้าโดนครอบงำโดยดูแรนดัลโดยสมบูรณ์แล้ว
ดูแรนดัลคือความถูกต้องทำให้เค้าสู้เพื่อความถูกต้องเสมอมา
แม้จะไม่คิดว่านี่คือหนทางที่ดีแต่ก็ไม่มีความคิดจะต่อต้านมัน
-
งั้นตอนที่ดูแรนดัลประกาศเดสทีนี่แพลนก็น่ะเป็นจุดเปลี่ยนให้ตัวชินได้นี่ครับ?
จิอากิ - ไม่หรอกค่ะ
เหตุผลหลักก็คือเดสทีนี่แพลนนั้นไม่ผิด
แต่การปฏิบัติมันต่างหากที่ผิด
ซึ่งถ้าเชื่อมั่นในมันซะยังไงก็คงมองข้อเสียมันไม่ออกแน่ๆ
- แปลว่าเป็นนโยบายที่ดีและยอมรับได้สินะครับ
จิอากิ - ค่ะ
ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมชินถึงไม่คิดจะขัดขืน
เพราะเค้าเองก็เป็นคนที่ทำงานเพื่อดูแรนดัลอยู่แล้วจะปฎิเสธมันทำไม
เรื่องของคนอื่นก็ช่างหัวมันสิ
แม้จะฟังดูน่าเกลียดแต่ใจเสี้ยวหนึ่งของจิตใจมนุษย์ก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้นแหละค่ะ
- แต่ผมว่า
ชินไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริงของดูแรนดัลหรอกนะครับ?
จิอากิ -เค้าเข้าใจมันดีค่ะ
แม้จะไม่สนับสนุนดูแรนดัลอย่างสุดใจแต่เมื่อดูแรนดัลตาย
สิ่งที่เค้าได้รับก็คือการสูญเสียจุดยืนทั้งๆที่ยังไม่ได้คำตอบ
ในขณะที่ตัวละครอื่นๆได้คำตอบต่างๆนานาตามแบบของตน
ความรักในเรื่องล่ะ
ความรักหลากรูปแบบนั้นคือความรักในเดสทินี่
- สุดท้ายขอให้พูดเกี่ยวกับความรักใน เดสทีนี่
หน่อยสิครับ
จิอากิ - ชินกับลูน่ามาเรีย นั้นเป็นรักแบบวัยรุ่น
คิระกับลักส์นั้นเป็นรักที่เชื่อใจกัน
ส่วนอัสรันกับคางารินั้นเป็นรักที่สับสนค่ะ
-
แน่นอนแม้จะบอกว่าเดินคนละทางแต่คางาริเองก็รักอัสรันในข้อนี้คงไม่เถียงสินะครับ
จิอากิ - ค่ะ
- แต่ทั้ง 2 ก็รักและเข้าใจกันใช่เหรอครับ?
จิอากิ - อัสรันนั้นรู้ดีว่าคางาริอ่อนโยนแค่ไหน
เค้าจึงสู้เพื่อปกป้องเธอเรื่อยมา
แต่ตัวคางาริเองก็มีภาระหน้าที่ของชาติต้องแบกรับ
จึงไม่อาจจะทุ่มเททุกสิ่งให้อัสรันได้
- งั้นแปลว่าสุดท้าย
คาการิจะเลือกออร์บแล้วสละอัสรันหรือครับ
จิอากิ - ฉันว่าเธอจะเลือกทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ
และคิดอีกว่าถ้าทั้งคู่ได้เจอกันอีกความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็คือคนรัก
แน่นอนตัวตนของอัสรันคือคนที่ขาดเสียไม่ได้ของคางาริ
เค้าจะคอยตามเธอทุกอย่าง ช่วยเธอทุกเรื่อง
แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเค้าเดินตามคางาริ
แต่เค้าเดินตามหนทางที่จะนำโลกสู่สันติสุขในแบบของตัวเองครับ
-
งั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าเค้าอาจจะเดินคนละกับคางาริเหมือนกันสิครับ
จิอากิ - ก็น่าจะมีทางนะค่ะ
ประมาณว่าตัวเค้าเองก็กลายเป็นผู้นำของแพลนท์อะไรเทือกนี้แต่ถ้าเป็นจริงเราอาจจะได้เห็นเค้าขอแต่งงานออกอากาศเลยก็ได้(ฮ่าๆ)
ซึ่งคางาริคงไม่ตอบตกลงแน่
- ชินกับลูน่ามาเรียก็ดูจะเป็นคู่รักที่สมกันดีนะครับ
จิอากิ - ค่ะ
แต่ถ้าดูแล้วอาจจะแปลกๆอยู่เพราะเธอนั้นอยู่ข้างกายชินเหมือนเป็นสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคยเสียมากกว่า
แถมลูน่ายังแก่กว่าตั้งปี แต่สุดท้ายก็ลงเอยกันได้
-
แล้วทำไมถึงให้จบด้วยการที่ชินร้องไห้กับตักของลูน่าล่ะครับ
จิอากิ - ก็เพราะว่ามันน่ะดีน่ะสิค่ะ
ชินนั้นแบกรับทุกสิ่งไว้กับตัว สู้ทนด้วยพลังของตนมาตลอด
น้ำตาตอนสุดท้ายนั้นจะสื่อว่าเค้าปลดปล่อยความเศร้าทั้งหมดให้ลูน่าได้รับรู้ด้วย
ซึ่งเธอก็เต็มใจรับไว้ |
Creedits
: http://www.cartoon.co.th
|