Idol~P|2Iestty ::LUCKY CLOVER::V.3 Featuring -- Cagalli Yura Athha & Stellar

++Main++

Home
Diary
Blog
Webboard
Guest Book
♥ E-Card
♥ Pools

Profile
Staff
Credits
Link
E-Mail

++General++

  Factions
 ♥ Technology
 ♥ Locations
 
Acronyms
 ♥ C.E. Timeline
 
G.U.N.D.A.M.
 
S.E.E.D
 
World
 ♥ People

++C.E.73 Destiny++

  Story
 
Character
 ♥ Mechanics
 
♥ Special 
 
VCD Episode Guide
 ♥ DVD Episode Guide
 ♥ OVA
 
Song Lyrics
 ♥ Midi
 ♥ Mp3
 ♥ Music Video

 
Video
 
Gallery
 ♥
Wallpaper
 ♥
Avatar
 ♥ Gift Animetion
 ♥ Calendar
 
Skin Winam

++C.E.71 Seed

  Story
 ♥
Character
 ♥
Mechanics
 ♥ Special
 
VCD Episode Guide
 ♥ DVD
 ♥ Song lyrics
 ♥ Midi
 ♥ Mp3
 ♥
Music Video
 ♥
Video
 ♥
Gallery
 ♥
Wallpaper
 
Avatar
 ♥ Gift Animetion
 ♥
Calendar
 ♥
Skin Winam

++Anime Other++

  Bleach
 ♥ Death Note
 ♥ Fullmetal Alchemist
 ♥ Fruit Basket
 ♥ Naruto
 ♥ Prince Of Tennis
 ♥ Rave
 ♥ Shuffle

++Video++

  MV Linkin Park
 ♥ MV Korn
 ♥ MV Rain
 ♥ MV Hikaru Utada
 ♥ MV W-inds

++Image++

  Gallery
 
Wallpaper
 ♥ Avatar
 ♥ Gif Animetion
 ♥ Enter
 ♥
Banner
 ♥ Botton
 ♥ Calendar
 ♥ Skin Winam
 ♥ MSN Skin

++Music++

 ♥ Song Lyrics
 ♥ Midi
 ♥ Mp3

++Down Load++

 ♥ Corsor
 
Font
 ♥ Java Scrips
 ♥ Web Lyout

++Link++

++Credits++

 Site(c)Idol~P|2Iestty
 Made by(c)Idol~P|2Iestty
 Layout(c)Idol~P|2Iestty
 Image: Minitokyo

 



 

 

++Special Interview Morosawa Chiaki++

 หากจะมีใครซักคนที่จะตอบเรื่องราวเกี่ยวกับ Gundam SEED Destiny ได้ดีกว่าใครแล้วละก็คนๆ นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นคุณโมโรซาวะ จิอากิ นักเขียนบทคู่บุญซีรีย์ SEED และคู่ชีวิตจริงของผู้กำกับมิตสึโอะ ฟุคุดะ คำอธิบายของเธอคงช่วยให้หลายๆ คนเข้าใจความหมายที่แท้จริงของบทบาทตัวละครแต่ละตัวได้ดียิ่งขึ้น QNOnline ได้ถอดความมาจากนิตยสาร Animage ฉบับเดือน 11 เล่มล่าสุดเพื่อนให้แฟนๆ ได้อ่านกันแล้ว!!

ชินคือหุ่นเชิดของ”นักบุญ”

- ช่วยพูดถึงธีมหลักของภาคนี้หน่อยครับ
จิอากิ - ธีมของภาคนี้ก็คือ “สงครามนั้นน่ารังเกียจจริงรึ?” ส่วนภาคก่อนนั้นเป็น “สงครามที่น่ารังเกียจ” เรียกว่าเกือบจะคนละมุมกันเลย เรียกว่าคนละเรื่องก็ได้ ทำให้ฉันต้องคิดมากเป็นพิเศษ แน่นอนทุกคนมักบอกว่า”ไม่ว่าจะมีเหตุผลเลิศหรูแค่ไหนสงครามก็คือสิ่งเลวร้าย” แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องสู้ล่ะ ประมาณว่า “ไม่สู้ก็ตาย” แล้วจะเป็นอย่างไร อีกหนึ่งธีมของเรื่องก็คือการมองสงครามผ่านทางสายตาของเหล่าเด็กหนุ่มสาว ที่มีทั้งความสับสนและลุ่มหลงในกระบวนการชวนเชื่อต่างๆ

- หมายความว่ายังไงครับ
จิอากิ- สำหรับเด็กๆที่เกิดมาท่ามกลางกระแสธารแห่งข้อมูลของสื่ออย่าง ทีวีและอินเตอร์เน็ตนั้น ก็คงมีบ้างที่สับสนว่าจะเชื่ออะไรดี จะหยุดรับข่าวสารก็ไม่ได้ วิธีง่ายที่สุดคือรับเอาสิ่งที่ชอบเข้ามา ซึ่งในกรณีของชินนั้นเค้าเลือกที่จะเชื่อ”นักบุญ” ในสายตาเค้าเชื่อฟังหัวปักหัวปำ และยึดถือว่าเค้าสู้เพื่อ ความเที่ยงธรรม ในขณะที่ ลูน่ามาเรีย นั้นยังคงลังเลอยู่ไม่น้อย “ทำแบบนี้ดีแล้วเหรอ” “แบบนี้น่าจะถูกแล้วมั้ง” ซึ่งความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของคนทั้งคู่ที่มีแนวคิดต่างกันสร้างให้เรื่องนั้นมีมิติขึ้นมา

-ใน”ซี้ด” คิระนั้นอยู่ท่ามกลางชีวิตที่สว่างไสวของวัยเยาว์ สนุกสนานกับเพื่อนวัยเดียวกัน ต่างกับชินที่มีเพื่อนวัยเดียวกันน้อยมาก เหมือนกับว่าแทบจะไม่มีเพื่อนเลยนะครับ
จิอากิ - ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นค่ะ ในใจเค้าคิดแต่ว่า ”ชั้นเจอแต่เรื่องโศกนาฏกรรมนี่ แล้วจะทำไม” เหมือนกับเด็กที่โดนแกล้งมาตลอดก็เลยมีทัศนคติที่คับแคบและทำให้เค้าเข้าได้แค่กับคนที่มีประสบการณ์คล้ายๆกัน จริงอยู่ที่ในความเป็นจริง กรณีของคนที่เติบโตมากับโศกนาฏกรรมนั้นน่าจะเป็นคนอ่อนโยนเสียยิ่งกว่าใครๆก็เป็นไปได้ แต่เราไม่ต้องการเช่นนั้น เราต้องการคนที่ผลักดันตัวเองให้ก้าวไปด้วยตรรกะแบบตัวเค้าเอง คนที่ไขว่คว้าหาพลังยิ่งๆขึ้นไป เพราะแบบนั้นจะมีเสน่ห์มากกว่า
 

ฉากเปิดอันรุนแรงคือจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมงั้นรึ?
- การที่เปิดฉากด้วยภาพการตายของครอบครัวที่ชินเคยได้รับมาในอดีตนี่สะเทือนอารมณ์มากเลยนะครับ จิอากิ - ฉันก็ว่างั้นเหมือนกันค่ะ เนื่องจากจะเปิดด้วยคนอื่นก็คงไม่ดี ลูน่ามาเรียไม่มีปมที่น่าสะเทือนใจขนาดนั้น เรย์เองก็ดูมีทีท่าสงบเงียบเก็บอารมณ์มากกว่า ประมาณเป็นพวก ”ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่” จึงไม่ใช้เขา ความจริงก็มีแนวทางว่าจะใช้คางาริเหมือนกัน แต่เรื่องของคางารินั้นจบไปแล้วแถมคางาริเองก็มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเลยเก็บไป และบอกตามตรงเลยฉันเองก็ไม่ชอบแบบนี้ค่ะ (แล้วไส่ไปทำไมเล่า...- QN )

 

สายตาอันเคียดแค้นของชินเป็นสิ่งที่คุณจะเห็นได้ตั้งแต่ตอนแรกๆ ของเรื่อง
- สำหรับชินแล้ว คางาริคือคนที่เค้าไม่อาจจะละสายตาได้เลยสินะครับ
จิอากิ - ค่ะ เพราะเธอคือคนที่เมื่ออยู่ต่อหน้าเค้าจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ ด้วยความผูกพันอย่างลึกซึ้งในเชิงของความเศร้าทำให้น้ำหนักของเรื่องมีมากขึ้น

- ซึ่งนั้นก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ดูแรนดัล ตัดสินใจมอบ อิมพัลส์ ให้ใช่มั้ยครับ
จิอากิ - ก็ไม่เชิงค่ะ ที่จริงเหตุผลซึ่งทำให้ชินได้รับอิมพัลส์มาก็คือเค้าทำผลการเรียนได้ดีกว่าเรย์ พื้นหลังความสัมพันธ์ของชินและเรย์นั้นสนิทกันมาก แม้แทบจะไม่ได้กล่าวถึงจุดนี้ก็เถอะ แต่สิ่งที่ผลักดันชินก็คือความต้องการขึ้นขับอิมพัลส์โดยที่ตัวเค้าเองก็ไม่ได้คิดว่าเรย์คือคู่แข่ง ทั้งคู่จึงไม่มีทิศทางของการชิงดีชิงเด่นกัน เหมือนที่เห็นในตอนที่หนีจากออร์บได้ ความสัมพันธ์ของชินกับเรย์จึงยังคงมีระยะห่างเท่าเดิม

 

ตอนที่เป็นหัวหน้าอัสรันมักจะเข้มงวดกับชินเสมอ นี่คือความแตกต่างระหว่างอายุและวัยวุฒิงั้นรึ
- ตรงกันข้ามกับอัสรันเลยนะครับ ขานั้นเค้าเข้มงวดกับชินน่าดูเลย
จิอากิ - นั่นก็น่าจะมากจากระยะห่างอายุของแต่ละคนมากกว่าค่ะ ชินกับเรย์นั้นโตมาด้วยกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดเค้าทั้งคู่ก็มีมุมมองไม่ต่างกันคำพูดประเภท “ทำได้ดีมากนะ” “ทำถูกแล้วล่ะ” จึงออกจากปากได้ง่ายๆ แต่กับอัสรันนั้นเค้ามักเข้มงวดกับชินทุกเรื่อง ซึ่งนั้นทำให้เค้าไม่สบายใจนักและพุ่งเข้าหาเรย์ที่เอาใจเค้าตลอด จุดนี้เองที่แสดงให้เห็นว่าชินนั้นยังมีความเป็นเด็กอยู่มาก

- คิระคือความถูกต้องรึ?
จิอากิ – ก็คงจริงนะค่ะ

- งั้นก็น่าจะอนุมานได้ว่าชินนั้นมีอัตตาสูงมากจึงมักทำตามใจตนเองอย่างไม่ยั้งคิดเสมอใช่มั๊ยครับ
จิอากิ - ค่ะ ซึ่งฉันเองชอบจุดนี้มากๆ จะว่าน่ารักก็ไม่ใช่น่าเกลียดก็ไม่เชิง เป็นคนอ่อนโยนและตรงไปตรงมาเหมือนเด็กดี

- แล้วเหตุผลที่ใช้ชินสู้จนจบนี่ก็เพราะจนแล้วจนรอดเค้าก็ไม่อาจหยั่งรู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของดูแรนดัลได้ หรือว่าเค้าไม่อาจจะขัดขืนการชี้นำของเรย์และดูแรลดัลไม่ได้กันแน่ครับ?
จิอากิ - จะว่าแบบนั้นทั้งหมดก็ได้มั้งค่ะ แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็เพราะชินคิดว่าตัวเองไม่ผิดไงค่ะ ฝ่ายดูแรนดัลคือฝ่ายถูกต่างหาก ที่ผ่านมาแก่นของ “กันดั้ม” เองนั้นไม่เคยบอกว่าใครถูกหรือผิด ฉันมักถามตัวเองเสมอนี่มันแค่ความคิดต่างขั้วไม่ใช่รึไง สิ่งที่คิระคิดคือความถูกต้องงั้นรึ? เจตนารมณ์ของดูแรนดัลคือหยุดความสับสน แต่พวกคิระต้องการคงความสับสนเอาไว้ พูดแค่นี้คิดว่าใครถูกละค่ะ ถ้าคิดกันตามสถานภาพของแต่ละคนที่มีแนวคิดและความรับผิดชอบเป็นของตัวเอง การละเลยสิ่งนั้นคือความถูกต้องรึ ดังนั้นถ้าจะให้บอกจริงๆ ฉันว่าคิระไม่ใช่ฝ่ายถูกซะทีเดียวหรอกค่ะ

- แปลกลายๆว่าดูแรนดัลคือการจัดระเบียบสังคมสินะครับ
จิอากิ - ถ้าถามเช่นนี้ก็เหมือนกับบอกว่าคิระคือฝ่ายถูกนั่นแหล่ะค่ะ ภาคก่อนฉันคิดว่าพวกเค้าแค่พบคนหลากแบบเลยชอบที่จะมีคนหลากหลายในสังคม แต่คราวนี้ไม่ใช่ ทั้ง 2 ฝ่ายก็มีความถูกต้องของแต่ละคน มีวิถีทางเดินของตนทำให้เรื่องสนุกมาก แถมยังยากที่จะตัดสินสิ่งที่เรียกว่าความถูกต้อง ยิ่งแต่ละคนก็มีความถูกต้องจึงยากที่จะตัดสินใจ แต่มีสิ่งที่เค้าเหมือนกันก็คือ ทำในสิ่งที่จะนำอนาคตที่ฝันไว้มาสู่ตน ซึ่งแน่นอนการตัดสินเลือกของแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับข่าวสารที่ได้รับ จึงบอกไม่ได้หรอกนะค่ะว่าใครถูก

- งั้นคุณจะบอกว่า Gundam SEED DESTINY คือการตีแผ่สถานการณ์โลกงั้นหรือครับ แล้วแบบนี้มันะไม่หนักไปหน่อยหรือครับ
จิอากิ – ตัวเรื่องนั้นมีแนวทาง 2 แง่ให้เลือกตลอดทาง ซึ่งนั่นค่อยๆ หล่อหลอมให้ชินกลายเป็นดาร์กฮีโร่ขึ้นมาทีละน้อยๆ ซึ่งเป็นทิศทางที่ต่างกับพวกคิระโดยสิ้นเชิง ซึ่งนั่นก็เป็นตัวละครแต่ละตัวก็มีทางของตัวเองที่แสดงจุดยืนของแต่ละคนออกมาอย่างชัดเจน คิระเองก็คิดแบบคิระ ลักส์ก็ทำแบบลักส์ อัสรันก็เดินในทางที่เค้าเลือก แต่ทุกคนก็เดินทางที่ตนทำได้จนสุดทางเท่าที่ทำได้ ด้านชินเองก็คงเชื่อในคำพูดของดูแรนดัลอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงได้ต่อสู้เพื่อสิ่งนั้น ก็แหมตัวดูแรนดัลนี่น่าเชื่อถือซะขนาดนั้นนี่ค่ะ(ฮ่า)

 

เมื่อเจอตำแหน่ง FAITH เข้าอัสรันก็ยอมกลับเข้าซาฟท์อีกครั้ง คนอะไรคารมร้ายจริงๆ
- นั่นสินะครับก็ถ้าผู้นำน่าเชื่อถือแบบนี้เป็นผม ผมก็อยากช่วยครับ
จิอากิ - คงอย่างนั้นนะค่ะ เพราะแม้แต่ อัสรัน ซาล่า ที่ไม่เต้นตามจังหวะของใครก็ยังหลงลมท่านผู้แทนดูแรนดัลได้ แต่เมื่อเค้าเห็นอะไรมากเข้า จึงรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เค้าคิดและตีตนออกห่าง ในที่สุดก็กลับมาสู่สนามรบได้ด้วยความช่วยเหลือของคิซากะ แต่ที่เค้ากลับมานั้นไม่ใช่เพราะคิระหรือดูแรนดัล แต่กลับมาเพราะต้องการทำในสิ่งที่เชื่อ

- แปลว่าแม้ระหว่างทางจะเจอกับอะไรก็ตาม อัสรันก็ยังคงมุ่งตรงไปตามทางที่เค้าเชื่อสินะครับ
จิอากิ - ฉันก็ตั้งใจให้เค้าเป็นแบบนั้นค่ะ

 

ปลายทางของชิน

- กว่า 50 ตอนที่ผ่านมาชินต่อสู้เพื่ออะไรครับ
จิอากิ - ถ้าจะถามแบบนั้นก็ต้องถามว่าตอบจบนั้นชินสู้เพื่ออะไร แต่มันก็เหมือนถามว่า “ที่จริงแล้วเธอต้องการอะไรกันรึ?” ในเวลาที่หวนกลับไปทำไม่ได้แล้วนั่นแหละค่ะ

- หมายความถึงต้องการจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัวสินะครับ?
จิอากิ - ค่ะ และเพื่อการนั้นถึงต้องการ “โลกที่ปราศจากสงคราม” แม้ต้องเดินบนหนทางของมารร้ายก็ตาม แม้จะดูเหมือนว่าเค้าต้องการ ทำลายออร์บที่น่ารังเกียจ แต่ที่จริงเค้าแค่ต้องการความอบอุ่นเยี่ยงเก่า แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่อาจหวนคืนมาแล้วก็ตาม

- แต่การที่ชินเสียครอบครัวไปในสงครามก็มีทิศทางที่นำให้เค้าสู้เพื่อสันติสุขได้เหมือนกันนี่ครับ
จิอากิ - มันก็ใช่ค่ะ แต่ในกรณีนี้ตัวตนของเค้าโดนครอบงำโดยดูแรนดัลโดยสมบูรณ์แล้ว ดูแรนดัลคือความถูกต้องทำให้เค้าสู้เพื่อความถูกต้องเสมอมา แม้จะไม่คิดว่านี่คือหนทางที่ดีแต่ก็ไม่มีความคิดจะต่อต้านมัน

- งั้นตอนที่ดูแรนดัลประกาศเดสทีนี่แพลนก็น่ะเป็นจุดเปลี่ยนให้ตัวชินได้นี่ครับ?
จิอากิ - ไม่หรอกค่ะ เหตุผลหลักก็คือเดสทีนี่แพลนนั้นไม่ผิด แต่การปฏิบัติมันต่างหากที่ผิด ซึ่งถ้าเชื่อมั่นในมันซะยังไงก็คงมองข้อเสียมันไม่ออกแน่ๆ

- แปลว่าเป็นนโยบายที่ดีและยอมรับได้สินะครับ
จิอากิ - ค่ะ ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมชินถึงไม่คิดจะขัดขืน เพราะเค้าเองก็เป็นคนที่ทำงานเพื่อดูแรนดัลอยู่แล้วจะปฎิเสธมันทำไม เรื่องของคนอื่นก็ช่างหัวมันสิ แม้จะฟังดูน่าเกลียดแต่ใจเสี้ยวหนึ่งของจิตใจมนุษย์ก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้นแหละค่ะ

- แต่ผมว่า ชินไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริงของดูแรนดัลหรอกนะครับ?
จิอากิ -เค้าเข้าใจมันดีค่ะ แม้จะไม่สนับสนุนดูแรนดัลอย่างสุดใจแต่เมื่อดูแรนดัลตาย สิ่งที่เค้าได้รับก็คือการสูญเสียจุดยืนทั้งๆที่ยังไม่ได้คำตอบ ในขณะที่ตัวละครอื่นๆได้คำตอบต่างๆนานาตามแบบของตน

 

ความรักในเรื่องล่ะ


ความรักหลากรูปแบบนั้นคือความรักในเดสทินี่
- สุดท้ายขอให้พูดเกี่ยวกับความรักใน ”เดสทีนี่” หน่อยสิครับ
จิอากิ - ชินกับลูน่ามาเรีย นั้นเป็นรักแบบวัยรุ่น คิระกับลักส์นั้นเป็นรักที่เชื่อใจกัน ส่วนอัสรันกับคางารินั้นเป็นรักที่สับสนค่ะ

- แน่นอนแม้จะบอกว่าเดินคนละทางแต่คางาริเองก็รักอัสรันในข้อนี้คงไม่เถียงสินะครับ
จิอากิ - ค่ะ

- แต่ทั้ง 2 ก็รักและเข้าใจกันใช่เหรอครับ?
จิอากิ - อัสรันนั้นรู้ดีว่าคางาริอ่อนโยนแค่ไหน เค้าจึงสู้เพื่อปกป้องเธอเรื่อยมา แต่ตัวคางาริเองก็มีภาระหน้าที่ของชาติต้องแบกรับ จึงไม่อาจจะทุ่มเททุกสิ่งให้อัสรันได้

- งั้นแปลว่าสุดท้าย คาการิจะเลือกออร์บแล้วสละอัสรันหรือครับ
จิอากิ - ฉันว่าเธอจะเลือกทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ และคิดอีกว่าถ้าทั้งคู่ได้เจอกันอีกความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็คือคนรัก แน่นอนตัวตนของอัสรันคือคนที่ขาดเสียไม่ได้ของคางาริ เค้าจะคอยตามเธอทุกอย่าง ช่วยเธอทุกเรื่อง แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเค้าเดินตามคางาริ แต่เค้าเดินตามหนทางที่จะนำโลกสู่สันติสุขในแบบของตัวเองครับ

- งั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าเค้าอาจจะเดินคนละกับคางาริเหมือนกันสิครับ
จิอากิ - ก็น่าจะมีทางนะค่ะ ประมาณว่าตัวเค้าเองก็กลายเป็นผู้นำของแพลนท์อะไรเทือกนี้แต่ถ้าเป็นจริงเราอาจจะได้เห็นเค้าขอแต่งงานออกอากาศเลยก็ได้(ฮ่าๆ) ซึ่งคางาริคงไม่ตอบตกลงแน่

- ชินกับลูน่ามาเรียก็ดูจะเป็นคู่รักที่สมกันดีนะครับ
จิอากิ - ค่ะ แต่ถ้าดูแล้วอาจจะแปลกๆอยู่เพราะเธอนั้นอยู่ข้างกายชินเหมือนเป็นสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคยเสียมากกว่า แถมลูน่ายังแก่กว่าตั้งปี แต่สุดท้ายก็ลงเอยกันได้

- แล้วทำไมถึงให้จบด้วยการที่ชินร้องไห้กับตักของลูน่าล่ะครับ
จิอากิ - ก็เพราะว่ามันน่ะดีน่ะสิค่ะ ชินนั้นแบกรับทุกสิ่งไว้กับตัว สู้ทนด้วยพลังของตนมาตลอด น้ำตาตอนสุดท้ายนั้นจะสื่อว่าเค้าปลดปล่อยความเศร้าทั้งหมดให้ลูน่าได้รับรู้ด้วย ซึ่งเธอก็เต็มใจรับไว้

 

Creedits : http://www.cartoon.co.th